พฤติกรรมของผีเสื้อ
เวลาทั้งหมดของผีเสื้อจะใช้ในการผสมพันธุ์ วางไข่ กินอาหาร เเละพักผ่อน
เวลาทั้งหมดของผีเสื้อจะใช้ในการผสมพันธุ์ วางไข่ กินอาหาร เเละพักผ่อน
การกินอาหาร
ปากของผีเสื้อที่เป็นหลอด ดังได้กล่าวเเล้ว อาหารของผีเสื้อจึงเป็นของเหลวที่มีน้ำตาล หรือโปรตีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นน้ำหวานจากดอกไม้ เพื่อไปเพิ่มเติมพลังงาน หรือในผีเสื้อขา หน้าพู่ที่ดูดน้ำเลี้ยงพืชที่ไหลเยิ้มตามลำต้น ผลไม้เน่า มูลนก หรือซากสัตว์ หรือเกาะกันเป็นกลุ่มที่พื้นทรายเปียก หรือดินที่มีเเร่ธาตุ ซึ่งเกลือเเร่จะเป็นตัวรักษาอุณหภูมิของร่างกาย ให้อบอุ่น ผีเสื้อส่วนใหญ่ที่พบตามดอกไม้ หรือโปร่งเกลือเเร่มักเป็นผีเสื้อเพศผู้เกือบทั้งหมด
ปากของผีเสื้อที่เป็นหลอด ดังได้กล่าวเเล้ว อาหารของผีเสื้อจึงเป็นของเหลวที่มีน้ำตาล หรือโปรตีน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นน้ำหวานจากดอกไม้ เพื่อไปเพิ่มเติมพลังงาน หรือในผีเสื้อขา หน้าพู่ที่ดูดน้ำเลี้ยงพืชที่ไหลเยิ้มตามลำต้น ผลไม้เน่า มูลนก หรือซากสัตว์ หรือเกาะกันเป็นกลุ่มที่พื้นทรายเปียก หรือดินที่มีเเร่ธาตุ ซึ่งเกลือเเร่จะเป็นตัวรักษาอุณหภูมิของร่างกาย ให้อบอุ่น ผีเสื้อส่วนใหญ่ที่พบตามดอกไม้ หรือโปร่งเกลือเเร่มักเป็นผีเสื้อเพศผู้เกือบทั้งหมด
การผสมพันธุ์
ผีเสื้อเพศผู้จะใช้วิธีการในการมองหาเพศเมียเพื่อการผสมพันธุ์ 2 วิธีด้วยกันคือ
1. ผีเสื้อเพศผู้บินหาเพศเมียที่พร้อมจะผสมพันธุ์ซึ่งมักเป็นที่ที่ผีเสื้อนั้นๆคุ้นเคย
2.ผีเสื้อเพศผู้เกาะอยู่ในที่สูง เเละบินผ่านไปที่เพศเมียอยู่ หากเพศเมียพร้อมที่จะผสมพันธุ์ เพศผู้จะบังคับเฑสเมียลงสู่พื้นเพื่อผสมพันธุ์ เเต่หากมีเพศผู้อีกตัวหนึ่งเฝ้าอยู่ก่อนการต่อ สู้จะเกิดขึ้นโดยผีเสื้อเจ้าถิ่นจะบินเเบบควงสว่างเพื่อขับไล่
การวางไข่
ผีเสื้อที่ได้รับการผสมพันธุ์เเล้วจะบินไปหาที่สำหรับวางไข่ ซึ่งก็คือที่ใบไม้ที่เคยเป็นอาหารของมันในระยะตัวอ่อน เเละจะเป็นอาหารของตัวหนอนเมื่อฟักจากไข่นั่นเอง ปัญหาว่าผีเสื้อทราบได้อย่างไรว่าใบไม้ที่จะวางไข่คือพืชอาหารของตัวหนอนที่เป็นลูกของมัน ซึ่งผีเสื้อมีวิธีการต่างๆคือ การใช้ขาหน้าหรือหนวดที่มีประสาทความรู้สึกเเตะ ทดสอบหรือบางชนิดใช้ส่วนปลายท้องเพื่อตรวจสอบก่อนวางไข่ เเต่ก็มีบางชนิดใช้วิธีปล่อยไข่ลงสู่ดิน
ผีเสื้อเพศผู้จะใช้วิธีการในการมองหาเพศเมียเพื่อการผสมพันธุ์ 2 วิธีด้วยกันคือ
1. ผีเสื้อเพศผู้บินหาเพศเมียที่พร้อมจะผสมพันธุ์ซึ่งมักเป็นที่ที่ผีเสื้อนั้นๆคุ้นเคย
2.ผีเสื้อเพศผู้เกาะอยู่ในที่สูง เเละบินผ่านไปที่เพศเมียอยู่ หากเพศเมียพร้อมที่จะผสมพันธุ์ เพศผู้จะบังคับเฑสเมียลงสู่พื้นเพื่อผสมพันธุ์ เเต่หากมีเพศผู้อีกตัวหนึ่งเฝ้าอยู่ก่อนการต่อ สู้จะเกิดขึ้นโดยผีเสื้อเจ้าถิ่นจะบินเเบบควงสว่างเพื่อขับไล่
การวางไข่
ผีเสื้อที่ได้รับการผสมพันธุ์เเล้วจะบินไปหาที่สำหรับวางไข่ ซึ่งก็คือที่ใบไม้ที่เคยเป็นอาหารของมันในระยะตัวอ่อน เเละจะเป็นอาหารของตัวหนอนเมื่อฟักจากไข่นั่นเอง ปัญหาว่าผีเสื้อทราบได้อย่างไรว่าใบไม้ที่จะวางไข่คือพืชอาหารของตัวหนอนที่เป็นลูกของมัน ซึ่งผีเสื้อมีวิธีการต่างๆคือ การใช้ขาหน้าหรือหนวดที่มีประสาทความรู้สึกเเตะ ทดสอบหรือบางชนิดใช้ส่วนปลายท้องเพื่อตรวจสอบก่อนวางไข่ เเต่ก็มีบางชนิดใช้วิธีปล่อยไข่ลงสู่ดิน
การอบอุ่นร่างกาย
เนื่องจากผีเสื้อเป็นสัตว์เลือดเย็นไม่สามารถปรับอุณหภูมิให้คงที่อยู่ได้ จึงจำเป็นต้องมีวิธีการอบอุ่นร่างกาย วิธีที่พบบ่อยคือการผึ่งเเดดโดยตรง
การบิน
ผีเสื้อบินเร็วหรือช้า ความสัมพันธ์ระหว่างลำตัว เเละปีกของผีเสื้อมีส่วนในการกำหนด กล่าวคือผีเสื้อที่มีขนาดลำตัวใหญ่ เมื่อเปรียบเทียบกับปีกที่มีขนาดเล็ก ผีเสื้อชนิดนั้นจะต้อง กระพือปีกถี่เเละบินเร็ว หากผีเสื้อที่มีขนาดใหญ่เมื่อเปรียบเทียบลำตัวผีเสื้อจะไม่ค่อยกระพือปีกบ่อย มันบินในลักษณะร่อนจึงบินช้า การป้องกันตัว
ผีเสื้อมีวิธีป้องกันตัวเองจากศัตรูหลายเเบบ เช่น มีสีสรรสัดใส บินเร็ว สีที่ปีก
การนอน
ผีเสื้ออาศัยช่วงเวลาที่ไม่เหมาะสมเช่น เวลากลางคืน หรือช่วงท้องฟ้ามืดคลื้ม นอนหลัยโดยผีเสื้อจะหุบปีกเเละเอาหัวลงหนวดชี้ตรงไปข้างหน้า บางชนิดนอนใต้ต้นไม้บางชนิด นอนเป็นกลุ่ม
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น